1 กันยายน 2568 / นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างพลังเครือข่ายการตรวจราชการและติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมบรรยายพิเศษ “การสร้างและพัฒนาเครือข่ายการตรวจราชการ การติดตามประเมินผลการจัดการศึกษา“ ณ โรงแรมรอยัล ริเวอร์ กรุงเทพฯ
โดยมีนายสุรศักดิ์ อินศรีไกร หัวหน้าผู้ตรวจราชการ ศธ. นายวีระ แข็งกสิการ นายไพศาล วุทฒิลานนท์ นายชาตรี ม่วงสว่าง นายชูสิน วรเดช นายเจษฎาภรณ์ พรหนองแสน ผู้ตรวจราชการ ศธ. นางปิยศิริ วรธนาวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักตรวจราชการและติดตามประเมินผล สป. ตลอดจนผู้แทนหน่วยงานในสังกัด ศธ. และสำนักงานศึกษาธิการภาค – จังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วม
ปลัด ศธ. กล่าวว่า แนวทางการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการนั้น ต้องมีการพัฒนาวิธีการและกระบวนการตรวจอย่างต่อเนื่อง มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการมอนิเตอร์ผลการดำเนินงาน โดยแนวคิดสำคัญที่ว่า “สถานที่ใดที่ดำเนินการได้ดีอยู่แล้ว ขอให้ทำดีต่อไป หากพื้นที่ใดต้องปรับปรุงก็เข้ามาทบทวนเพื่อพัฒนายิ่งขึ้น” เครื่องมือสำคัญที่นำมาใช้คือระบบตรวจราชการออนไลน์ หรือ E-Inspection ที่จะช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลและรวบรวมผลการตรวจราชการเป็นไปอย่างมีระบบและมีประสิทธิภาพ ตลอดจนสามารถสรรหาข้อมูล Best Practice ได้อย่างแม่นยำและเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงาน
ขณะเดียวกันนี้กระทรวงศึกษาธิการกำลังร่างระเบียบใหม่เกี่ยวกับการตรวจราชการ ซึ่งมุ่งเน้นการลดขั้นตอนและความซับซ้อนในการติดตามผลของผู้ตรวจราชการ โดยใช้กลไกศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เป็นเครื่องมือสำคัญในการรายงานผลการดำเนินงาน เพื่อให้กระบวนการตรวจราชการมีความคล่องตัวและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกพื้นที่
สำหรับการรายงานผลของหน่วยปฏิบัติ จะมีการรายงานผลในสองเส้นทาง คือ การรายงานตามสายบังคับบัญชาโดยตรง และการรายงานไปยัง กศจ. เพื่อส่งต่อไปยังสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ซึ่งจะรวบรวมข้อมูลส่งต่อไปยังสำนักงานตรวจราชการ ก่อนนำเสนอแก่ผู้บริหารระดับสูงต่อไป ซึ่งช่วยลดระยะเวลาและขั้นตอนในการดำเนินงาน ทำให้การติดตามและประเมินผลเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
สิ่งสำคัญคือขอให้ทุกคนพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง สะสมประสบการณ์ในหลากหลายพื้นที่ หลายสายงาน และหลายสังกัด เพื่อเพิ่มพูนความรู้ความสามารถและสร้างความแตกต่างในการทำงาน ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่ใดก็ต้องเรียนรู้เนื้องานและบทบาทหน้าที่อย่างลึกซึ้ง ตีโจทย์ให้แตก และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นโยบายของกระทรวงศึกษาธิการเปรียบเสมือน “คัมภีร์” ในการขับเคลื่อนงาน ผู้ตรวจราชการจึงต้องลงพื้นที่ตรวจติดตามตามมอบหมายของรัฐมนตรี พร้อมประสานงานกับผู้รับการตรวจราชการและเครือข่ายในพื้นที่ เพื่อเตรียมความพร้อมด้านข้อมูล พื้นที่ และแนวทางการดำเนินงานให้รอบด้าน “ความท้าทาย” ของการตรวจราชการคือปัญหาและความต้องการสนับสนุนในแต่ละพื้นที่ที่นำเสนอต่อผู้บริหาร จะช่วยสะท้อนแนวทางในการกำหนดนโยบาย ผู้ที่อยู่ในพื้นที่และเผชิญเหตุการณ์จริงเป็นผู้ที่เข้าใจปัญหาและสามารถเสนอแนวทางแก้ไขได้ดีที่สุด เพื่อนำไปกำหนดแนวทางและนโยบาย รวมถึงวิธีการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม
“การตรวจราชการเปรียบเหมือนการให้กำลังใจ การเชื่อมโยงข้อมูลและการประสานงานอย่างมีเครือข่าย ถือเป็นหัวใจสำคัญของงานตรวจราชการ ขอให้คน ศธ. รุ่นใหม่ทุกคนคิดว่า “พวกเราคือทีมเดียวกัน” ในฐานะ “ทีมกระทรวงศึกษาธิการ” ด้วยเป้าหมายเดียวกัน คือ “การยกระดับคุณภาพการศึกษาของชาติให้ทัดเทียมนานาอารยประเทศ” การทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพจะทำให้เราสามารถแข่งขันทั้งในระดับอาเซียน +3 (จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้) และระดับโลกได้”
ในการนี้ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ ศธ. ได้ร่วมบรรยายพิเศษ “สาระสำคัญในการปรับปรุงระเบียบ ศธ. ว่าด้วยการตรวจราชการ การติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา พ.ศ. 2568” จากนั้นในช่วงบ่ายมีการเสวนา “แนวทางการพัฒนาการตรวจราชการตามระเบียบ ศธ. ว่าด้วยการการตรวจราชการ การติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล และนิเทศการศึกษา พ.ศ. 2568” โดยผู้ตรวจราชการ ศธ. และผู้ทรงคุณวุฒิ
อานนท์ วิชานนท์ / ข่าว-กราฟิก
พีรณัฐ ยุชยะทัต / ภาพ