ปลัด ศธ.“สุเทพ” เปิดมหกรรมพัฒนาวิชาชีพครู EDUCA 2025 “การสร้างพลเมืองแห่งอนาคต” เพิ่มความสามารถ ภาษา 3+1

17 ตุลาคม 2568 /นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงาน EDUCA Summit & The Principal Forum 2025 : งานมหกรรมทางการศึกษาเพื่อพัฒนาวิชาชีพครู ครั้งที่ 18 และการประชุมกลุ่มผู้อำนวยการผู้นำ ประจำปี 2568 ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ

ปลัดกระทรวงศึกษาธิการกล่าวในพิธีเปิดว่า “กระทรวงศึกษาธิการได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาวิชาชีพของบุคลากรทางการศึกษา ทั้งในระดับผู้บริหารสถานศึกษา ครู อาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา และนักการศึกษา ตลอดจนผู้สนใจทั่วไป ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ศาสตร์การสอน และการจัดการเรียนรู้ร่วมกัน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพทางวิชาชีพและคุณภาพผู้เรียนได้อย่างเหมาะสม  ซึ่งงานมหกรรมทางการศึกษา EDUCA ภายใต้แนวคิด Inventing Future Citizens คือ การสร้างพลเมืองแห่งอนาคต

ในโอกาสนี้ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “การสร้างพลเมืองแห่งอนาคต” จึงเป็นพันธกิจสำคัญประการหนึ่งของกระทรวงศึกษาธิการ ที่จะต้องทำให้ระบบศึกษามีความเชื่อมโยงกับโลกที่เปลี่ยนไป  ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อระบบการศึกษาที่จำเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างเป็นระบบเพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของสังคม ของประเทศ และสามารถเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตให้กับผู้เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แนวคิดนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่า การศึกษาในยุคปัจจุบัน ไม่ได้มุ่งเพียงการถ่ายทอดความรู้ แต่ต้องมุ่งสร้างผู้เรียนให้มีสมรรถนะที่เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี รวมถึงมีจิตสำนึกความเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศและของโลกในศตวรรษที่ 21 ที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งการเกิดขึ้นของเทคโนโลยีใหม่ๆ ปัญญาประดิษฐ์และระบบเศรษฐกิจดิจิทัล ทำให้รูปแบบการเรียนรู้และการทำงานของมนุษย์เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เยาวชนของเราจะต้องเติบโตในโลกที่ความรู้อย่างไม่หยุดนิ่ง การศึกษาของไทยจึงต้องเร่งปรับตัวเพื่อให้ผู้เรียนของเรามีทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิต คิดวิเคราะห์แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างเข้าใจบนความท้าทายของคนในแต่ละยุคที่มีการเจริญเติบโตมาอย่างแตกต่างกัน

ซึ่งเด็กที่เกิดใหม่ในปี ค.ศ. 2025 – 2039 หรือ Gen Beta จะสามารถเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีได้อย่างสมดุล ดังนั้น ในเรื่องช่องว่างระหว่างกระบวนการเรื่องรู้ จึงต้องได้รับการพัฒนาต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดนี้ คาดว่าในอนาคตยังมีการเปลี่ยนไปอีกในหลายอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการ วิธีการสอน ข้อมูล กระบวนการจัดการศึกษาจึงต้องสอดรับกับการเรียนรู้ของเด็กในแต่ละยุคและบริบทของแต่ละพื้นที่ อย่างน้อยในเรื่องของภาษาก็เช่นกัน เราจะต้องมีการพัฒนาไม่ใช่แค่ 2 ภาษาแล้ว แต่จะต้องเป็น 3+1 คือ ภาษาไทย (ภาษาหลัก) ภาษาอังกฤษ (ภาษาสากล) ภาษาที่สอดคล้องกับบริบท เช่น ภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น และภาษา AI ที่ควรจะนำมาจัดการขับเคลื่อนให้สอนคล้องกับการเรียนการสอนในแต่ละระดับชั้น

การจัดงานดังกล่าว ได้กำหนดการดำเนินกิจกรรม ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2568 ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออนไซต์ ภายใต้แนวคิดหลัก “Inventing Future Citizens” โดย กระทรวงศึกษาธิการ เป็นเจ้าภาพร่วมกับ บริษัท ปิโก (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) และได้รับการอนุญาตให้ใช้ตราสัญลักษณ์ของกระทรวงศึกษาธิการและสำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือที่จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้บริหารสถานศึกษา ครู คณาจารย์ ศึกษานิเทศก์ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ วางแนวทางเชิงนโยบาย และพัฒนาแนวปฏิบัติที่ดีที่สามารถนำไปใช้ในสถานศึกษาเพื่อสร้างผลลัพธ์การเรียนรู้ของนักเรียน ส่งผลต่อการพัฒนาวิชาชีพ สามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ ส่งต่อแบ่งปันสิ่งดีๆ สู่การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนได้อย่างเหมาะสม เป็นรูปธรรม ส่งเสริมให้เป็นทั้งคนเก่ง คนดี มีคุณธรรม

ทั้งนี้ มีครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วมกว่า 300 คน ซึ่งภายในกิจกรรม ได้เปิดเวทีเสวนาร่วมกันโดยวิทยากรเชี่ยวชาญและนักวิชาการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศ. ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ประธานกรรมการในคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผศ. ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา ศ. ดร.องอาจ นัยพัฒน์ ผอ.สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) ดร. ศศิธร เขียวกอ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนพญาไท และดำเนินรายการโดย ดร. สาวิตรี จุ้ยทอง ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ ศธจ.สมุทรปราการ

สุกัญญา จันทรสมโภชน์ /สรุป-กราฟิก
ธนภัทร จันทรห้างหว้า/ภาพ