
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้กล่าวปาฐกถาในระหว่างการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการประเทศสมาชิกอาเซียน โดยกระตุ้นเตือนและเรียกร้องให้ผู้นำทางการศึกษาตระหนักถึงการขับเคลื่อนนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้ความสำคัญกับการบริหารทรัพยากรอย่างสมดุลเพื่อให้เกิดการจัดการศึกษาที่เท่าเทียม ทั้งนี้ นวัตกรรมทางนโยบายที่สำคัญของประเทศไทยที่ประยุกต์ใช้ในการพัฒนาการจัดศึกษาให้มีคุณภาพและสร้างให้เกิดความเท่าเทียมอย่างมีประสิทธิภาพประกอบด้วย 1) การพัฒนาครู ประเทศไทยได้ริเริ่มการใช้ระบบคูปองครูเพื่อจัดการฝึกอบรมครูให้มีทักษะเพิ่มขึ้น ผ่านการร่วมมือกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการสื่อสารซึ่งผลลัพธ์ที่ได้พบว่าครูได้รับการพัฒนาตรงตามความต้องการ ภาระด้านงบประมาณการพัฒนาครูลดลง และลดทอนการคอรัปชั่นในวงราชการ 2) การทำงานร่วมกับเครือข่ายทางการศึกษา โดยประเทศไทยตระหนักว่าการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนให้รองรับการเป็นคนไทยในยุค 4.0 นั้น กระทรวงศึกษาธิการไม่อาจทำได้เพียงลำพัง หากแต่จำเป็นต้องร่วมมือกับทุกภาคส่วน ดังนั้น จึงได้สร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อพัฒนาการศึกษาหลากหลายโครงการ อาทิ การร่วมมือกับสถาบัน KOSEN ของญี่ปุ่น เป็นต้น และ 3) การพัฒนาทั้งระบบ กระทรวงศึกษาธิการไทยคำนึงว่าการพัฒนาการศึกษาจำเป็นต้องสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งระบบ การพัฒนาการศึกษาหากเลือกจะทำการพัฒนาเพียงจุดเดียวไม่อาจสร้างให้เกิดผลกระทบที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ท้ายที่สุด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เน้นย้ำว่า การจัดการศึกษาจำเป็นต้องดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน (education must be completed to meet all the demand that nature brings with it) ดังนั้น การจัดการศึกษาในปัจจุบันควรคำนึงถึงการจัดการศึกษาเพื่อการดำรงชีวิต ทั้งนี้ ประเด็นเร่งด่วนที่จำเป็นต้องเร่งดำเนินการ คือ การพัฒนา mindset 4.0 การสร้างโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาโดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และการสร้างพันธมิตรเพื่อการพัฒนา โดยการร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นครู ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาจะเป็นกลไกสำคัญที่ก่อให้เกิดการพัฒนาที่สัมฤทธิ์ผลได้ – Everybody is a hero!
ในวันเดียวกัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้หารือระดับทวิภาคีกับ H.E.Prof. Dr. Muhadjir Effendy รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและวัฒนธรรมอินโดนีเซีย และ H.E. Leonor Magtolis Briones รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการฟิลิปปินส์ โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาความร่วมมือระหว่างกัน โดยเฉพาะประเด็นการประเมินสอบวัดความรู้นักเรียนนานาชาติ (PISA) ซึ่งพบว่าคะแนนที่ออกมาอาจไม่สะท้อนกับข้อมูลที่แท้จริง ทั้งนี้ประเทศไทยร่วมกับ OECD กำหนดจัดสัมมนานานาชาติเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การประเมิน PISA ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2561 และประสงค์จะขอเชิญประเทศสมาชิกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย ซึ่งทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์แจ้งว่ายินดีจะส่งผู้แทนระดับนโยบายมาเข้าร่วมงาน สำหรับประเด็นบันทึกความตกลงด้านการศึกษา (MOU) กับอินโดนีเซียที่หมดอายุลงตั้งแต่ปี 2560 ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะขยายเวลาบันทึกความตกลงดังกล่าวต่อไป หรืออาจพิจารณาปรับปรุงแก้ไขฉบับเดิมให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันยิ่งขึ้น ส่วนประเด็นความร่วมมือกับฟิลิปปินส์ที่สำคัญ ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบที่จะหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์ดูแลครูฟิลิปปินส์ที่เข้ามาสอนในโรงเรียนของไทยอย่างเป็นระบบ


*****************************
ข้อมูล/ภาพโดยสำนักความสัมพันธ์ต่างประเทศ สป.
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
5 พฤศจิกายน 2561

