ครม.เห็นชอบกรอบแนวทางการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการและจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

มติคณะรัฐมนตรี (25 กรกฎาคม 2566) เห็นชอบกรอบแนวทางการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการและจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ตามที่คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) เสนอ

สาระสำคัญของเรื่อง

1. ก.พ.ร. ในการประชุมครั้งที่ 3/2566 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2566 ได้มีมติเห็นชอบกรอบแนวทางการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการและจังหวัด ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ดังนี้

หัวข้อ รายละเอียด
หลักการและแนวทางการประเมินฯ Ÿ มุ่งเน้นการบูรณาการการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ แผ่นแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 แผนงานบูรณาการเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และดัชนีชี้วัดสากล (International KPIs)  รวมทั้งนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยกรอบแนวทางการประเมินของส่วนราชการให้กระทรวงมีบทบาทหลักเป็นผู้รับผิดชอบในการพิจารณากำหนดตัวชี้วัดและติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของกระทรวงและส่วนราชการในสังกัดกระทรวงผ่านกลไกคณะกรรมการกำกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการระดับกระทรวง เช่นเดียวกับการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 และกรอบแนวทางการประเมินของจังหวัดมุ่งเน้นการบูรณาการการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายระดับชาติและนโยบายสำคัญของรัฐบาลเช่นเดียวกับส่วนราชการ รวมถึงนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงมหาดไทย (มท.) นอกจากนี้ ได้ให้ความสำคัญกับการประเมินผลสำเร็จของการบรรลุเป้าหมาย ตามแผนพัฒนากลุ่มจังหวัดและแผนปฏิบัติราชการประจำปีของกลุ่มจังหวัด โดยดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรา 58 ของพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยการบริหารงานเชิงพื้นที่แบบบูรณาการ พ.ศ. 2565 โดยให้ มท. มีบทบาทหลักในการพิจารณาความเหมาะสม ตัวชี้วัด น้ำหนัก และค่าเป้าหมาย รวมทั้งติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานของจังหวัดผ่านกลไกคณะกรรมการกำกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของจังหวัด
Ÿ ให้ความสำคัญกับการกำหนดตัวชี้วัดเพื่อขับเคลื่อนการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันระหว่างกระทรวง (Joint KPIs) โดยกำหนดประเด็นนโยบายสำคัญ (Agenda) ที่จะขับเคลื่อนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 จำนวน 5 ประเด็น* เพื่อขับเคลื่อนการบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันระหว่างส่วนราชการ จังหวัด องค์การมหาชน รัฐวิสาหกิจ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานอื่น ๆ โดยมีการถ่ายทอดเป้าหมายจากระดับประเทศลงสู่ระดับหน่วยงานที่รับผิดชอบขับเคลื่อนการดำเนินงาน
องค์ประกอบการประเมิน ประกอบด้วย 2 องค์ประกอบ ดังนี้ ส่วนราชการ จังหวัด
1. การประเมินประสิทธิผลการดำเนินงาน (น้ำหนักร้อยละ 70)
1.1 ตัวชี้วัดตามภารกิจ (Functional KPIs)
– ผลการดำเนินงานตามยุทธศาสาตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 มติคณะรัฐมนตรี นโยบายรัฐบาลโดยเฉพาะนโยบายเร่งด่วน (Agenda KPIs)
– ผลการดำเนินงานการบูรณาการร่วมกันภายใต้ภารกิจเดียวกัน (Joint KPIs by Function)
– ผลการดำเนินงานตามภารกิจพื้นฐานงานประจำ งานตามหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก งานตามกฎหมาย กฎ หรือภารกิจในพื้นที่/ท้องถิ่น ภูมิภาค จังหวัด กลุ่มจังหวัด
– ผลการดำเนินงานของดัชนีชี้วัดสากลที่วัดผลตามภารกิจของหน่วยงาน (International KPIs)
– ผลการดำเนินงานตามแผนพัฒนาของจังหวัดและแผนพัฒนากลุ่มจังหวัด (Area KPIs) และ/หรือผลการดำเนินการเพื่อแก้ไขประเด็นปัญหาสำคัญ (Pain Point) และต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ในการแก้ไขปัญหา
1.2 ตัวชี้วัดขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกัน (Joint KPIs) เป็นผลการดำเนินงานการบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงานตามประเด็นนโยบายสำคัญ (Joint KPIs by Agenda)
2. การประเมินศักยภาพในการดำเนินงาน (น้ำหนักร้อยละ 30)
2.1 การพัฒนาองค์การสู่ดิจิทัล (น้ำหนักร้อยละ 20) ประกอบด้วย
– การสร้างนวัตกรรมในการปรับปรุงกระบวนงานหรือการให้บริการ (e-Service)
– การพัฒนาระบบข้อมูลให้เป็นดิจิทัล (Digitize Data) ทั้งข้อมูลที่ใช้ภายในหน่วยงานและข้อมูลที่จะเผยแพร่สู่หน่วยงานภายนอก/สาธารณะ เพื่อนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ (Open Data)
– การปรับเปลี่ยนหน่วยงานไปสู่ความเป็นดิจิทัล (Digital Transformation)
2.2 การประเมินสถานะของหน่วยงานในการเป็นระบบราชการ 4.0 (PMQA 4.0) (น้ำหนักร้อยละ 10)
กลุ่มเป้าหมายการประเมิน ส่วนราชการในสังกัดฝ่ายบริหาร ประกอบด้วย (1) ส่วนราชการ 154 หน่วยงาน และ (2) จังหวัด 76 จังหวัด สำหรับส่วนราชการสังกัด กห. กอ.รมน. ตช. และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศร.ชล.) ให้นำแนวทางการประเมินประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในสังกัดฝ่ายบริหารไปประยุกต์ใช้และส่งผลการประเมินให้สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อรายงานต่อนายกรัฐมนตรีพร้อมกับส่วนราชการอื่น
ผู้ประเมิน2 Ÿ นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
Ÿ รัฐมนตรีว่าการ หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการ
Ÿ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ประเมินเบื้องต้น)
รอบระยะเวลาการประเมิน กำหนดให้ประเมินส่วนราชการและจังหวัด ปีละ 2 รอบ ดังนี้
Ÿ รอบการประเมินครั้งที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 มีนาคม
Ÿ รอบการประเมินครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ถึงวันที่ 30 กันยายน
โดยให้ส่วนราชการและจังหวัดมีการกำกับติดตามความก้าวหน้าของการปฏิบัติราชการและกำหนดให้รายงานผลการดำเนินงานผ่านระบบการรายงานผลการประเมินส่วนราชการ (Electronic Self Assessment Report: e-SAR)
เกณฑ์การประเมิน ประกอบด้วยการประเมิน 2 ระดับ ดังนี้
1. เกณฑ์การประเมินระดับตัวชี้วัด พิจารณาจากผลการดำเนินงานเทียบกับค่าเป้าหมายใน 3 ระดับ (คะแนนเต็ม 100 คะแนน) (ส่วนราชการและจังหวัดที่มีผลการดำเนินงานต่ำกว่าค่าเป้าหมายขั้นต้นจะได้คะแนนศูนย์) ดังนี้ ค่าเป้าหมาย คะแนน 1) ค่าเป้าหมายขั้นสูง 100 2) ค่าเป้าหมายมาตรฐาน 75 3) ค่าเป้าหมายขั้นต้น 50
2. เกณฑ์การประเมินระดับส่วนราชการและจังหวัด (คะแนนเต็ม 100 คะแนน)  โดยแบ่งเกณฑ์การประเมินเป็น 3 ระดับ ดังนี้ ระดับการประเมิน คะแนนผลการดำเนินงาน
1) ระดับคุณภาพ 90-100
2) ระดับมาตรฐาน  – มาตรฐานขั้นสูง 75-89.99  – มาตรฐานขั้นต้น 60-74.99
3) ระดับต้องปรับปรุง ต่ำกว่า 60
กลไกการประเมิน ดำเนินการผ่านกลไกคณะทำงานและคณะกรรมการใน 2 ระดับ ดังนี้
ระดับ 1 คณะทำงานเพื่อพิจารณาตัวชี้วัดตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ และคณะทำงานเพื่อพิจารณาตัวชี้วัดตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของจังหวัดเป็นกลไก ของสำนักงาน ก.พ.ร. ที่แต่งตั้งโดยคณะอนุกรรมการพัฒนาระบบราชการ (อ.ก.พ.ร.) เกี่ยวกับการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ
ระดับ 2 คณะกรรมการกำกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ/จังหวัดเป็นกลไกของส่วนราชการและจังหวัด ดังนี้
1. ส่วนราชการ มีคณะกรรมการกำกับการประเมินฯ ของส่วนราชการประกอบด้วย 3 กลุ่ม ได้แก่ (1) คณะกรรมการกำกับการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในกระทรวง 18 กระทรวง (ยกเว้น กห.) แต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (2) คณะกรรมการกำกับการประเมินฯ ของส่วนราชการในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี (นร.) และส่วนราชการไม่สังกัด นร. กระทรวง หรือทบวง (ยกเว้น กอ.รมน. ตช. และ ศร.ชล) รวม 19 หน่วยงาน แต่งตั้งโดยรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่กำกับส่วนราชการ และ (3) คณะกรรมการกำกับการประเมินฯ ของส่วนราชการใน นร. [เฉพาะสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) กรมประชาสัมพันธ์ และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)] แต่งตั้งโดยรองนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีที่กำกับ สปน.
2. จังหวัด มีคณะกรรมการกำกับการประเมินฯ ของจังหวัดซึ่งแต่งตั้งโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ทั้งนี้ ผู้แทนของสำนักงบประมาณ (สงป.) สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในคณะกรรมการกำกับการประเมินฯ ของส่วนราชการ/จังหวัด ควรกำหนดให้ผู้แทนหลักเป็นระดับผู้อำนวยการกองขึ้นไปและผู้แทนสำรองเป็นระดับผู้เชี่ยวชาญขึ้นไป
ขั้นตอนการพิจารณาตัวชี้วัด Ÿ สำนักงาน ก.พ.ร. จะเป็นผู้พิจารณารายการตัวชี้วัดเชิงยุทธศาสตร์สำคัญ (Strategic KPIs) ของส่วนราชการและตัวชี้วัดขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงานตามประเด็นนโยบายสำคัญ (Joint KPIs by Agenda) และร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทยพิจารณารายการตัวชี้วัดของจังหวัด
Ÿ การขอปรับเปลี่ยนรายละเอียดตัวชี้วัดตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการและจังหวัดและตัวชี้วัดขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกันหลายหน่วยงานตามประเด็นนโยบายสำคัญ (Joint KPIs by Agenda) ให้ส่วนราชการและจังหวัดเสนอให้คณะกรรมการกำกับการประเมินฯ ของส่วนราชการ/จังหวัด รับทราบ/พิจารณา และเสนอ อ.ก.พ.ร. เกี่ยวกับการประเมินส่วนราชการฯ เพื่อทราบ/พิจารณา ตามลำดับ
การปรับเปลี่ยนรายละเอียดตัวชี้วัดตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ Ÿ เป็นไปตามหลักเกณฑ์การปรับเปลี่ยนรายละเอียดตัวชี้วัดฯ ที่สำนักงาน ก.พ.ร. กำหนด ดังนี้    1. ส่วนราชการและจังหวัดสามารถขอปรับเปลี่ยนรายละเอียดตัวชี้วัดฯ ค่าเป้าหมาย และเกณฑ์การให้คะแนน หากการดำเนินงานตามตัวชี้วัดได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น (1) สถานการณ์ภัยธรรมชาติ ภัยพิบัติ โรคระบาดรุนแรง โรคอุบัติใหม่ ที่ไม่ได้มีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า (2) การเปลี่ยนแปลงนโยบายรัฐบาล และ (3) ไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณหรือได้รับงบประมาณล่าช้าอย่างน้อย 6 เดือน
2. คณะกรรมการกำกับการประเมินฯ ต้องพิจารณาตามความเหมาะสมในการปรับเปลี่ยนรายละเอียดตัวชี้วัดตามแนวทาง ดังนี้
2.1 การปรับเปลี่ยนค่าเป้าหมายต้องไม่เป็นการนำผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้นแล้วมากำหนดเป็นค่าเป้าหมายใหม่เพื่อให้มีผลการประเมินดีขึ้น
2.2 หากเห็นควรให้ยกเลิกตัวชี้วัด ให้นำน้ำหนักของตัวชี้วัดนั้นไปกระจายลงตัวชี้วัดอื่นตามสัดส่วนความสำคัญของแต่ละตัวชี้วัด
2.3 ไม่กำหนดตัวชี้วัดทดแทนหรือตัวชี้วัดใหม่ระหว่างปี เนื่องจากไม่ได้มีการพิจารณาตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ
2.4 การปรับเปลี่ยนค่าเป้าหมายเเผนการดำเนินงาน/กิจกรรมที่เกิดจากการปรับเปลี่ยนวิธีการ หรือแนวทางการดำเนินงานที่เป็นการบริหารจัดการภายในของส่วนราชการหรือเกิดจากความล่าช้าในการดำเนินงานอันเนื่องมาจากการบริหารโครงการที่ไม่เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ ไม่ได้เป็นเหตุจากปัจจัยภายนอกที่ไม่สามารถควบคุมได้
3. การพิจารณาขอปรับเปลี่ยนรายละเอียดตัวชี้วัดตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพฯ ของส่วนราชการและจังหวัดให้คณะกรรมการกำกับการประเมินฯ พิจารณา และเสนอ อ.ก.พ.ร. เพื่อทราบตามลำดับ และการพิจารณาขอปรับเปลี่ยนรายละเอียดตัวชี้วัดขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกัน (Joint KPIs) ให้คณะกรรมการกำกับการประเมินฯ พิจารณาเบื้องต้นและเสนอ อ.ก.พ.ร. พิจารณา ตามลำดับ หมายเหตุ : การปรับเปลี่ยนรายละเอียดตัวชี้วัดตามมาตรการปรับปรุงฯ จะปรับเปลี่ยนได้เฉพาะองค์ประกอบการประเมินประสิทธิผลการดำเนินงาน (น้ำหนักร้อยละ 70) (ตัวชี้วัดตามภารกิจและ Joint KPIs) เท่านั้น
Ÿ การปรับเปลี่ยนรายละเอียดตัวชี้วัดฯ ให้ส่วนราชการและจังหวัดเสนอคณะกรรมการกำกับการประเมินฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบ และให้คณะกรรมการกำกับการประเมินฯ แจ้งผลการพิจารณาให้สำนักงาน ก.พ.ร. ทราบ แบ่งออกเป็น 2 รอบ ดังนี้
– รอบ 6 เดือน (ภายในเดือนกุมภาพันธ์)
– รอบ 12 เดือน (ภายในเดือนกรกฎาคม)
การให้ข้อเสนอแนะเพื่อส่งสัญญาณล่วงหน้า (Early Warning) เป็นการกำกับและติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงานตามตัวชี้วัดของส่วนราชการและจังหวัดเพื่อติดตามแนวโน้มผลการดำเนินงาน รวมถึงปัญหาอุปสรรคในการบรรลุเป้าหมายตัวชี้วัดของส่วนราชการและจังหวัด และให้ข้อเสนอแนะเพื่อส่งสัญญาณล่วงหน้า (Early Warning) โดยสำนักงาน ก.พ.ร. จะแจ้งเตือนสถานการณ์ดำเนินงานตามตัวชี้วัดของส่วนราชการและจังหวัด ปีละ 1 ครั้ง ในเดือนมิถุนายน (ถ้ามี)
การเชื่อมโยงผลการประเมินส่วนราชการกับการประเมินผู้บริหารส่วนราชการ ผลการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของส่วนราชการและจังหวัดจะนำไปเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผลการปฏิบัติงานรายบุคคลระดับหัวหน้าส่วนราชการ (ปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า อธิบดีหรือเทียบเท่า ผู้ว่าราชการจังหวัด) เพื่อให้การประเมินหัวหน้าส่วนราชการสามารถผลักดันการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลและบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ทั้งนี้ ส่วนราชการและจังหวัดจะนำผลการประเมินตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพฯ ไปประกอบการประเมินผู้บริหารส่วนราชการ

2. สำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีหลังยุบสภาผู้แทนราษฎรตามมาตรา 169 (1) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ที่บัญญัติให้คณะรัฐมนตรีที่พ้นจากตำแหน่งหลังจากมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรต้องปฏิบัติหน้าที่โดยไม่กระทำการอันมีผลเป็นการอนุมัติงานหรือโครงการ หรือมีผลเป็นการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไปเว้นแต่ที่กำหนดไว้แล้วในงบประมาณรายจ่ายประจำปี ก.พ.ร. แจ้งว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการดำเนินการในลักษณะงานปกติตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ไม่ได้เป็นการกำหนดนโยบายขึ้นใหม่ จึงไม่เป็นการกระทำการสร้างความผูกพันต่อคณะรัฐมนตรีชุดต่อไป

__________________

* ก.พ.ร. มีมติ (7 มิถุนายน 2566) เห็นชอบประเด็นนโยบายสำคัญ (Agenda) 5 ประเด็น ประกอบด้วย (1) การบริหารจัดการและอนุรักษ์ฟื้นฟูน้ำทั้งระบบ (2) การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (3) รายได้จากการท่องเที่ยว (4) รายได้ของผู้ประกอบการ SMEs    และ OTOP และ (5) การลดปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 และ PM10

2 จากการประสานสำนักงาน ก.พ.ร. แจ้งว่า สำนักงาน ก.พ.ร. จะพิจารณารายงานผลการประเมินตนเองเบื้องต้นของส่วนราชการและจังหวัด ก่อนรายงานให้ผู้ประเมินข้างต้นทราบ