(ศธจ.ชัยนาท) จัดกิจกรรม “ชมรมจับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน”

วันอังคารที่ 19 สิงหาคม 2568 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมเจ้าสามพระยา ชั้น 3 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยนาท สำนักงาน สกสค. จังหวัดชัยนาท จัดโครงการส่งเสริมความสามัคคีของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาและผู้ปฏิบัติงานด้านการศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 กิจกรรม “ชมรมจับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน”โดยมี ดร.พัฒนาพร ไทยพิบูลย์ ศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท กรรมการ สกสค.จังหวัด รักษาการแทน ผู้อำนวยการสำนักงาน สกสค. จังหวัดชัยนาท เป็นประธานในพิธีเปิด และ นายวินิจ ภูชัยศรีสัมฤทธิ์ รองศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท ในฐานะประธานคณะกรรมการ “ชมรมจับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน“ ของสำนักงาน สกสค.จังหวัดชัยนาท กล่าวรายงานวัตถุประสงค์โครงการ
การจัดโครงการฯ ในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อให้มีการจัดตั้ง “ชมรมจับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน” ของสำนักงาน สกสค. จังหวัดชัยนาท 2) เพื่อดำเนินการจัดกิจกรรมด้านเศรษฐกิจ ส่งเสริมรายได้ ลดภาระค่าครองชีพ ร่วมกับชมรมอย่างต่อเนื่อง 3) เพื่อดำเนินการจัดกิจกรรมด้านสังคม ส่งเสริมความสามัคคี การสร้างแรงผลักดันในการทำงานร่วมกับชมรมอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ ดร.พัฒนาพร ไทยพิบูลย์ ศึกษาธิการจังหวัดชัยนาท กรรมการ สกสค.จังหวัด รักษาการแทน ผู้อำนวยการสำนักงาน สกสค. จังหวัดชัยนาท ได้บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับงานสวัสดิการ สวัสดิภาพและสิทธิประโยชน์เกื้อกูลของสำนักงาน สกสค. จังหวัดชัยนาท ในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ การจัดตั้ง ช.พ.ค. – ช.พ.ส., ความสำคัญของการสมัครเข้าเป็นสมาชิก ช.พ.ค. – ช.พ.ส., สกสค.การันตี เงิน ช.พ.ค.สมาชิกได้ 9 แสนบาททุกราย, การเพิ่มเพื่อนใน Line OA , การเปิดใช้งาน Application OTEP , ส่วนลดพิเศษ Max Card X OTEP, โครงการรถมอเตอร์ไซต์ไฟฟ้า สกสค. เป็นต้น
ทั้งนี้ สำนักงาน สกสค.จังหวัดชัยนาท ได้เชิญ นายจักรินทร์ คงสิบ ตำแหน่ง ครูเชี่ยวชาญ วิทยาลัยเทคนิคชัยนาท สังกัดสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัดชัยนาท มาเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การสร้างแรงบันดาลใจในการทำงาน” ให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา เกิดความมุ่งมั่นตั้งใจในการทำงานหาความรู้หรือเรียนรู้สิ่งใหม่เพิ่มเติม มีวิธีการปรับตัวสามารถสร้างแรงบันดาลใจจากสิ่งรอบตัว รวมถึงแนะนำแนวทาง/วิธีการจัดทำงานผลงานทางวิชาการ เพื่อขอรับวิทยฐานะ ให้มีความก้าวหน้าในสายวิชาชีพของตนเองมากยิ่งขึ้น มีครูและบุคลากรทางการศึกษาในประจำการ เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ รวมจำนวน 130 คน