ที่ปรึกษา รมว.ศธ.“บุญสิงห์” ประชุมแนวทางตรวจราชการ เขต กทม. ปี 2569 เน้น ดูแลครู และยกระดับคุณภาพการศึกษา

27 ตุลาคม 2568 / ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์) เป็นประธานการประชุมการตรวจราชการและติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ เขตตรวจราชการส่วนกลาง (กรุงเทพมหานคร) ณ ห้องประชุมสนั่น อินทรประเสริฐ ชั้น 10 อาคารรัชมังคลาภิเษก 1 กระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารในเขตตรวจราชการส่วนกลาง (กรุงเทพมหานคร) เข้าร่วม และผู้แทนสถานศึกษา ผู้แทนหน่วยงาน ผ่านระบบออนไลน์ โดยมี นายสมใจ วิเศษทักษิณ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นผู้ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการตามระเบียบวาระการประชุม

การประชุมในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้ถึงทิศทางการดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของหน่วยงาน ทางการศึกษา ตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการและการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ

ในโอกาสนี้ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้มอบแนวทางสำคัญในการตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ 2569 ซึ่งมีนโยบายให้พัฒนาคุณภาพการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำ และการดูแลครู โดยมีทิศทางดำเนินการดังนี้

• บริบทและภาพรวม – เพื่อสื่อสารสร้างการรับรู้แนวทางพัฒนาการศึกษาภายใต้นโยบายของ ศาสตราจารย์ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ซึ่งถือเป็นพื้นที่ต้นแบบด้านการศึกษา เพราะเป็นเมืองหลวงและศูนย์กลางของประเทศ

• ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา – ปัจจุบันโครงสร้างการศึกษามีหลายหน่วยงาน (สพฐ., อาชีวะ, เอกชน, กศน.) รวมกว่า 30,000 แห่ง มีความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงเรียน “ยอดพีระมิด” (โรงเรียนคุณภาพสูงในเมือง) กับ “ฐานพีระมิด” (โรงเรียนขาดแคลนในต่างจังหวัด) เน้นให้โรงเรียนในกรุงเทพฯ ซึ่งมีทรัพยากรมากกว่า ช่วยดึงและสนับสนุนโรงเรียนในพื้นที่อื่น เพื่อยกระดับคุณภาพโดยรวม

• ปัญหาทรัพยากรและงบประมาณ – ระบบการศึกษายังดำเนินอยู่บน “ความขาดแคลน” ทั้งงบประมาณและบุคลากร

โรงเรียนในต่างจังหวัดจำนวนมากยังต้องระดมทุนเอง (เช่น ผ้าป่า, ศิษย์เก่า) โรงเรียนในกรุงเทพฯ ซึ่งมีโอกาสในการพัฒนามากกว่า เนื่องจากมีเครือข่ายวัดและชุมชนช่วยสนับสนุน

• นโยบายใหม่และแนวทางดำเนินการ – จะไม่เพิ่มนโยบายใหม่จนเกินไป แต่จะมุ่งเน้น “ทำสิ่งที่มีอยู่ให้ดีขึ้น” อาทิ เพิ่ม วิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง เพื่อปลูกฝังสำนึกรักชาติและจิตสาธารณะ โดยจะให้ความสำคัญกับหลักสูตรและคุณภาพผู้เรียน หลังจากที่พบว่าผลการศึกษาของไทยยังอยู่ในระดับต่ำในอาเซียน

• ปัญหาและการพัฒนาครู

– ภาระงานครู ซึ่งครูมีภาระงานเอกสารมากเกินไป (กว่า 114 ภารกิจ) ทำให้ไม่มีเวลาให้กับการสอน จึงมีแผนปรับลดภาระงานครู เหลือประมาณ 50–52 งาน รวมถึง

– หนี้สินครู ทั่วประเทศซึ่งมีจำนวนรวมสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท (มากกว่างบประมาณแผ่นดิน 1/3) กระทรวงศึกษาธิการจึงมีแนวทางให้เตรียมจัดตั้ง “สหกรณ์กลาง” เพื่อฟื้นฟูหนี้ครู โดยเริ่มต้นที่วงเงินประมาณ 100,000 ล้านบาท และพักดอกเบี้ยในปีแรก

– วิทยฐานะครู เตรียมปรับเกณฑ์วิทยฐานะใหม่ ให้เน้น “ผลงานจริงในการพัฒนาผู้เรียน” มากกว่างานวิจัย และมีการพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ข้าราชการครูฯ เพื่อไม่ให้ครูพ้นจากตำแหน่งกรณี “ล้มละลายจากเหตุไม่ทุจริต”

• สวัสดิการและที่พักครู – จะปรับปรุง บ้านพักครูประมาณ 13,000 หน่วย ทั่วประเทศ โดยพิจารณาใช้พื้นที่โรงเรียนที่ไม่ได้จัดการเรียนการสอนเพื่อสร้างที่พักใหม่ และประสานกับกระทรวงพลังงานเพื่อลด ค่าไฟฟ้าให้สถานศึกษา

นอกจากนี้ ได้ฝากถึงโรงเรียนในกรุงเทพมหานคร ให้โรงเรียนที่มีศักยภาพได้เชื่อมโยงและช่วยพัฒนาโรงเรียนอื่น

มุ่งสร้างคุณภาพผู้เรียนและพัฒนาครูอย่างต่อเนื่อง และสนับสนุนให้เกิดการ “แบ่งปันทรัพยากรทางการศึกษา” ระหว่างโรงเรียน

สุกัญญา จันทรสมโภชน์ / เรียบเรียง

ข้อมูล – ภาพ : สำนักตรวจราชการและติดตามประเมินผล กระทรวงศึกษาธิการ

ภาพเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/share/p/1ArbAkHzmN/?mibextid=wwXIfr