เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2566 พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ครั้งที่ 5/2566 ผ่านระบบออนไลน์ โดยมีนายยศพล เวณุโกเศศ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษาพิเศษ ผู้แทนกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมบัญชีกลาง สำนักงบประมาณ และผู้แทนสมาคมจากภาคเอกชน เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านโปรแกรม Zoom meeting โดยมีสรุปผลการประชุมที่สำคัญ ดังนี้
ที่ประชุมเห็นชอบ ช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนที่เสียหายจากโกดังเก็บประทัดระเบิด และที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัย
พิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีให้การช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์โกดังเก็บประทัดระเบิดในพื้นที่ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และโรงเรียนเอกชนที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัย โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้การช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์โกดังเก็บประทัดระเบิดในพื้นที่ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส จำนวน 3 โรง และโรงเรียนเอกชนที่ประสบภัยพิบัติอุทกภัย จำนวน 8 โรง เพื่อให้โรงเรียนเอกชนดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือด้านงบประมาณในการปรับปรุงซ่อมแซมอาคาร สถานที่ วัสดุ – อุปกรณ์ โดยอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินการจำนวน 2,987,851 บาท และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จัดทำเรื่องเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป โดยนำข้อสังเกตและความคิดเห็นของที่ประชุมไปประกอบการพิจารณาดำเนินการ
ที่ประชุมเห็นชอบ ปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
พิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแนวทางการปรับเพิ่มเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน รายการเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู โดยที่ประชุมเห็นชอบให้ 1) ปรับอัตราเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน รายการเงินอุดหนุนรายบุคคลในส่วนของเงินสมทบเป็นเงินเดือนครู สำหรับนักเรียนโรงเรียนเอกชนสังกัด สช. และ สอศ. โดยปรับฐานเงินเดือนครูในการคำนวณเงินอุดหนุนจากอัตรา 15,050 บาท เป็นอัตรา 18,150 บาท ภายในระยะเวลา 2 ปี เริ่มดำเนินการเดือนพฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป ตามแนวทางที่เสนอ และให้การอุดหนุนเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนขนาดเล็กตามแนวทางที่เสนอ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2567 ถึงเดือนกันยายน 2570 จากนั้นให้กระทรวงศึกษาธิการศึกษาแนวทางการให้ความช่วยเหลือโรงเรียนเอกชนขนาดเล็กที่มีความเหมาะสมต่อไป
ที่ประชุมเห็นชอบ ให้ใช้งบประมาณสำหรับดำเนินการ
– ปีงบประมาณ 2567 ใช้งบประมาณรายจ่าย งบกลาง จำนวน 676,912,563 บาท
– ปีงบประมาณ 2568 ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี จำนวน 2,394,869,963 บาท
– ปีงบประมาณ 2569 ตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี จำนวน 3,473,261,700 บาท
– ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2570 ให้ ศธ. ตั้งงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ เพื่อดำเนินการ และมอบ สช. จัดทำเรื่องเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเพื่อพิจารณานำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป โดยนำข้อสังเกตและความคิดเห็นของที่ประชุมไปประกอบการพิจารณาดำเนินการ
ที่ประชุมเห็นชอบ พิจารณาแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
- การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการส่งเสริมการศึกษาเอกชนและร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ตามที่ สช. เสนอ
- การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนากฎหมายส่งเสริมการศึกษาเอกชนและร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนากฎหมายส่งเสริมการศึกษาเอกชน และปรับแก้ร่างคำสั่งตามข้อสังเกตของที่ประชุม
- ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนฝ่ายกฎหมาย ที่ 175/2565 สั่ง ณ วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เพื่อปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการฯ ชุดดังกล่าว ให้สอดคล้องกับการดำเนินการตามภารกิจด้านการขับเคลื่อนกฎหมายการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
- มอบ สช. เสนอร่างคำสั่งแต่งตั้งฯ คณะอนุกรรมการ จำนวน 2 คณะดังกล่าว ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการในฐานะประธานกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนพิจารณาแต่งตั้งต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบ 3 ประเด็น ต่อไปนี้
1) รายงานการขอขยายเวลาในการออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดแห่งพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 เพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562
2) รายงานความคืบหน้าการแก้ไขเหตุแห่งการสั่งให้ควบคุมโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
3) รายงานการควบคุมกิจการโรงเรียนอนุบาลเสริมปัญญา อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม โดยได้มอบหมายให้ สช. แจ้งศึกษาธิการจังหวัดนครปฐมปรับแก้ไขคำสั่งคณะกรรมการควบคุมกิจการโรงเรียนอนุบาลเสริมปัญญาและศธจ.นครปฐม ได้ปรับแก้คำสั่งเพื่อนำเสนอที่ประชุม.
ประชาสัมพันธ์ สช. / ข่าว-ภาพ