26 พฤศจิกายน 2569 – รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มอบหมายให้ นายบุญสิงห์ วรินทร์รักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมตรวจราชการและติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 เขตตรวจราชการที่ 14 (กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 2 ได้แก่ อุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ) พร้อมบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 สู่การปฏิบัติ” โดยมี นายสมใจ วิเศษทักษิณ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (หน.ผตร.) ผู้รับผิดชอบเขตตรวจราชการที่ 14 ร่วมดำเนินการประชุมและบรรยายพิเศษ หัวข้อ “ทิศทางการดำเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการศึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 สู่การปฏิบัติ” ณ ห้องประชุมสนั่น อินทรประเสริฐ กระทรวงศึกษาธิการ และผ่านระบบ Online (Zoom Meeting)
โดยก่อนเริ่มประชุมผู้เข้าร่วมประชุมได้ยืนสงบนิ่ง เป็นเวลา 1 นาที เพื่อถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
การประชุมครั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 3,000 คน ผ่านระบบ Online ประกอบด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารสถานศึกษา และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ศึกษาธิการภาค 14, ศึกษาธิการจังหวัด, หัวหน้าหน่วยงานทางการศึกษา, ผู้บริหารสถานศึกษา, ครู และบุคลากรทางการศึกษาในสังกัดทั้ง 4 จังหวัด วัตถุประสงค์หลักของการประชุมคือ เพื่อสื่อสาร สร้างการรับรู้ และสร้างความเข้าใจให้บุคลากรทางการศึกษานำนโยบายไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาให้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง
ในการบรรยายพิเศษ ที่ปรึกษา รมว.ศธ. ได้เน้นย้ำประเด็นสำคัญหลายด้านเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสำคัญสู่การปฏิบัติในพื้นที่เขตตรวจราชการที่ 14 ได้แก่
- ด้านความปลอดภัยและแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน : เนื่องจากเขตตรวจราชการที่ 14 ซึ่งครอบคลุม 4 จังหวัด เป็นพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะจังหวัดอุบลราชธานีที่มักเผชิญปัญหาน้ำท่วม จึงเน้นย้ำให้ทุกสถานศึกษาและหน่วยงานการศึกษาต้องมี “แผนเผชิญเหตุ” และ “แผนฟื้นฟูหลังเกิดเหตุ” เพื่อรับมือภัยธรรมชาติและอุบัติเหตุไม่คาดฝันอื่น ๆ เช่น น้ำท่วม เหตุไฟไหม้ นโยบายด้านความปลอดภัยนี้ยังรวมถึงการยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยในสถานศึกษาและการป้องกันภัยจากสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่เสี่ยงให้เป็นพื้นที่ปลอดภัย (SAFE ZONE)
- การลดภาระงานครูและคืนครูสู่ห้องเรียน : กระทรวงศึกษาธิการได้ดำเนินการสำรวจและลดงานที่ไม่จำเป็นในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้เหลืองานที่ต้องจัดการในสถานศึกษาประมาณ 62 งาน และกำลังปรับลดภาระให้มากขึ้น นอกจากนี้ มีการเพิ่มบุคลากรสายสนับสนุนเพื่อช่วยเหลืองานเอกสาร วัสดุ และการเงิน เพื่อให้ครูมีเวลาอยู่กับนักเรียนมากขึ้น สำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก (นักเรียนน้อยกว่า 60 คน) จะให้เขตพื้นที่ช่วยรับภาระงานด้านการเงินและพัสดุ
- การพัฒนาครูและการแก้ปัญหาหนี้สินครู : รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้ความสำคัญกับการเสริมความพร้อมของครู ทั้งด้านอาชีพและคุณภาพชีวิต มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหาหนี้สินครูผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์และการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมกันนี้ยังส่งเสริมให้ครูมีรายได้เพิ่มและพัฒนาวิชาชีพได้ดีขึ้น รวมถึงมีการทำ MOU เพื่อปรับปรุงบ้านพักครูและสวัสดิการอื่น ๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
- การทำงานเชิงบูรณาการในพื้นที่ : ยกตัวอย่างจังหวัดอุดรธานีที่ทำงานร่วมกันระหว่างทุกหน่วยงานด้านการศึกษาอย่างมีเอกภาพ จึงมีความปรารถนาให้ทั้ง 4 จังหวัดในเขตตรวจราชการที่ 14 มี “ทีมการศึกษา” ที่ทำงานแบบบูรณาการเพื่อเห็นผลร่วมกันตามเป้าหมายของจังหวัด
ทั้งนี้ ที่ปรึกษา รมว.ศธ. ได้กล่าวขอบคุณและส่งกำลังใจให้กับครู ผู้บริหาร และบุคลากรทุกระดับ โดยย้ำว่ากระทรวงพยายามแก้ไขปัญหาและสนับสนุนเพื่อให้ทุกคนสามารถพัฒนาผู้เรียนได้อย่างมีคุณภาพ
ในโอกาสนี้ นายสมใจ วิเศษทักษิณ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ และรักษาการศึกษาธิการภาค 14 ได้ดำเนินการประชุม ชื่นชมการดำเนินงานของทุกหน่วยงานในเขตตรวจราชการที่ 14 ที่ทุ่มเทพัฒนาการศึกษาอย่างต่อเนื่อง แม้จะต้องปรับตัวกับบริบททางสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี โดยให้ที่ประชุมร่วมกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เสนอความคิดเห็นอย่างสร้างสรรค์ และผลักดันนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการให้เกิดผลสัมฤทธิ์เพื่อยกระดับคุณภาพผู้เรียน พัฒนาครู และสร้างระบบการศึกษาที่ตอบสนองต่อความต้องการของประเทศชาติ ซึ่งนโยบายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการตรวจราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 คือ
- ด้านความปลอดภัยและคุ้มครองผู้เรียน (ยกระดับมาตรการความปลอดภัย, ป้องกันภัยฉุกเฉิน)
- ด้านการส่งเสริมวิชาชีพและสวัสดิการครู (แก้ปัญหาหนี้สินครู, ส่งเสริมสวัสดิการที่พักอาศัย, ลดภาระงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับการสอน, พัฒนาสมรรถนะดิจิทัล)
- ด้านการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน (ผลักดันการพัฒนาหลักสูตรที่ตอบโจทย์บริบทพื้นที่, เน้นสมรรถนะและทักษะอาชีพ)
พร้อมกำชับให้แนวทางการตรวจราชการครั้งนี้ตามหลักการ “ประหยัด เรียบง่าย ได้ประโยชน์สูงสุด” เน้น คุณภาพผู้เรียน สอนให้นักเรียนเป็นคนดีและเป็นคนเก่ง ทำงานแบบบูรณาการในจังหวัดต่าง ๆ เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายทางการศึกษาเดียวกัน เปรียบเสมือนการบรรเลงวงออร์เคสตรา ที่เครื่องดนตรีแต่ละชิ้น (แต่ละหน่วยงาน) แม้จะมีบทบาทแตกต่างกัน แต่เมื่อผู้ควบคุมวง (ทีมนักการศึกษา) นำมาประสานเสียงร่วมกัน ก็จะสร้างผลงานที่มีคุณภาพที่ยิ่งใหญ่กว่าการเป็นศิลปินเดี่ยว คือการทำงานเป็นทีมย่อมทรงพลัง เพราะเป็นการผนึกจุดแข็ง ทักษะ และความเชี่ยวชาญที่หลากหลายของแต่ละบุคคลเข้าด้วยกัน เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ
สุกัญญา จันทรสมโภชน์ / ข่าว
ธนภัทร จันทร์ห้างหว้า / ภาพ
