กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนาม MOU

 

 

     กระทรวงศึกษาธิการ ร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “โครงการลูกเสือพิทักษ์ป่า Scout Ranger” ณ ห้องประชุมศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช โดยมีหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และ  พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ลงนาม เมื่อวันศุกร์ที่ 8 กันยายน 2560

     เนื่องจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เล็งเห็นศักยภาพของเยาวชนโดยเฉพาะลูกเสือ เนตรนารี ที่มีพลังในการสร้างกิจกรรมเกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติ อีกทั้งมีลูกเสือเนตรนารี จำนวนประมาณ 600,000 คน อยู่ในรัศมี 10 กิโลเมตรรอบพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จึงมีแนวคิดโครงการ ลูกเสือพิทักษ์ป่าขึ้น เพื่อพิทักษ์รักษา ป้องกันทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่คุ้มครอง และสร้างแนวทางความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทั้งสองในการส่งเสริม สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนดำเนินโครงการต่างๆที่เกี่ยวข้อง เช่น การปลูกต้นไม้ดูแลรักษาต้นไม้ รณรงค์ไม่ล่าสัตว์ป่า ร่วมกับชุมชน รณรงค์การป้องกันไฟป่าในชุมชนที่อยู่ในหรือติดกับพื้นที่คุ้มครอง ร่วมกันสร้างแหล่งอาหารและแหล่งน้ำให้สัตว์ป่า สร้างฝายชะลอน้ำ บำเพ็ญประโยชน์ และดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ เป็นต้น โดยมีเป้าหมายสร้างครูลูกเสือพิทักษ์ป่า จำนวนไม่น้อยกว่า 2,000 คนในอุทยานแห่งชาติ 154 แห่งทั่วประเทศ และมีลูกเสือพิทักษ์ป่าจำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 คน ประกอบกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติ ในพื้นที่คุ้มครอง และร่วมปลูกต้นไม้ 2,000,000 ต้น ในระยะเวลา 5 ปี

     พลเอก สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีสมาชิกใหม่เข้ามาร่วมภารกิจอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ในเบื้องต้นเราต้องทำความเข้าใจว่า ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมคือมรดกอันล้ำค่าของแผ่นดิน ที่บรรพบุรุษยอมสละเลือดเนื้อปกป้องไว้เพื่อพวกเรา ปัจจุบันมีพื้นที่กว่า 323 ล้านไร่ ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติที่เรารับมานั้นมีความอุดมสมบูรณ์ จากนี้เราจึงต้องช่วยกันคิดว่าจะส่งต่อทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้สู่ลูกหลานในรูปแบบใด

     ทั้งนี้ภารกิจดังกล่าว เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย ต้องมีการตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าภายในปี 2579 นั้น เราจะมีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเท่าไหร่ อย่างไร ซึ่งภารกิจนี้ภาครัฐทำตามลำพังไม่ได้ วันนี้ผืนแผ่นดินไทยมีคนหลากหลายกลุ่มอาศัยอยู่ทั้งคนไทย นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แรงงานต่างชาติที่เข้ามาอาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทย ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของประชาชนทุกฝ่าย เครือข่ายต่าง ๆ ต้องช่วยกัน โดยเฉพาะเครือข่ายลูกเสือนับว่าสำคัญมาก ๆ ซึ่งโครงการลูกเสือพิทักษ์ป่านี้ จะเปิดโอกาสให้ลูกหลานได้เข้าไปฝึกหัดในพื้นที่จริง ซึมซับและเรียนรู้เกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติ ได้ทดลองปฏิบัติจริงจากห้องเรียนธรรมชาติ เป็นการปลูกต้นไม้ในใจลูกหลานของเรา จึงขอฝากความหวังกับเครือข่ายลูกเสือ ขอให้เยาวชนได้ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ อุทยานแห่งชาติของเรามีคนมากมายจากทั่วโลกเข้ามาท่องเที่ยวทุกปี ขอให้ลูกหลานเราได้เข้ามาเป็นเจ้าของพื้นที่และดูแลรักษาทรัพยากรเหล่านี้ร่วมกัน

     หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล กล่าวว่า โครงการลูกเสือพิทักษ์ป่า เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของทั้งสองกระทรวง และในฐานะที่ตนเป็นประธานคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ปฏิบัติภารกิจตามเจตนารมณ์ของกระทรวงศึกษาธิการ อยากให้ลูกหลานเยาวชนไทยเป็นคนดีของบ้านเมือง ตามพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ที่ทรงสนับสนุนเยาวชน ให้พัฒนา ปรับปรุง บำรุงรักษา ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งทางกระทรวงศึกษาธิการเองมีความภูมิใจมากที่ได้ทำภารกิจสำคัญนี้ ตลอดจนฝากถึงครูฝึก ให้ช่วยเป็นญาติผู้ใหญ่ของเด็ก ๆ ด้วย ช่วยกันดูแล โดยครูของโรงเรียนจะช่วยกำกับอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้มีความปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ และขอให้ทุกคน ปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มที่ ตามพระราชปณิธานของรัชกาลที่ 6 ที่ทรงจัดตั้งลูกเสือไทยเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม และประเทศชาติ ตลอดจนนำความภาคภูมิใจมาสู่ครอบครัว  

ปารัชญ์/สรุป

กิตติกร, ธเนศ/ภาพ

กลุ่มสารนิเทศ สอ.สป.